รีวิว BEIJING เที่ยวปักกิ่ง ประเทศจีน ด้วยตัวเองง่ายๆ
ประวัติศาสตร์ ดีงาม ครบรส free visa คือนิยามสั้นๆ ที่เราอยากยกให้กับปักกิ่ง ประเทศจีน ที่บอกเลยว่า ไม่ว่าเพื่อนๆ จะชอบหรือไม่ชอบประวัติศาสตร์ก็ตาม แต่เชื่อเหอะว่าแลนด์มาร์คทั้งเก่าและใหม่ของเมืองนี้คือ A Must Visit ที่ทุกคนต้องมาเยือนกันสักครั้งจริงๆ กับสถานที่ที่ได้บันทึกเรื่องราวอันยาวนานในฐานะศูนย์กลางอำนาจตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันของแผ่นดินแดนมังกร ที่ได้หลอมรวมความยิ่งใหญ่ในอดีตจนมาบรรจบกับความทันสมัยในปัจจุบันได้อย่างลงตัว และในรีวิวนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ ไปเก็บแลนด์มาร์คปักกิ่ง ประเทศจีน ที่สามารถเที่ยวง่ายๆ ด้วยตัวเองแบบทริปเดียวเก็บครบ
จองห้องพักโรงแรมในปักกิ่งราคาพิเศษได้ที่นี่
เปรียบเทียบราคาโรงแรมจาก Agoda
จองบัตรสถานที่ท่องเที่ยวในปักกิ่งจาก Klook
เรียกว่าเป็นเมืองที่ครบรส ครบทุกแนวจริงๆ จะชอบประวัติศาสตร์ การเมือง ทันสมัย ช๊อปปิ้ง อาหาร คาเฟ่ รูฟท็อป สวนสนุก เมืองนี้มีให้ครบหมดทุกอย่างตั่งแต่ถูกยันแพง และสามารถเที่ยวปักกิ่งด้วยตัวเองได้ง่าย ซึ่งเราอยากขอแนะนำที่กินที่เที่ยวห้ามพลาดในปักกิ่งดังนี้
Landmark ไฮไลท์ห้ามพลาดเที่ยวปักกิ่ง
พระราชวังต้องห้าม
Summer Palace
กำแพงเมืองจีน ด่าน Mutianyu
หอสักการะฟ้า Tian Than
Lama Temple
Jingshan Park
Universal Studio Beijing
ที่เที่ยว Lifestyle กินเที่ยวช๊อปห้ามพลาด
Atmosphere & The Lounge, Shanghai-La Beijing
Sugar Bar
Shichahai Bar Street
Quanmen Street
การเที่ยวปักกิ่งด้วยตัวเอง
การท่องเที่ยวและการเดินทาง
ในปักกิ่งเที่ยวง่ายระบบขนส่งมวลชนดีมาก สะอาด และทั่วถึงทั้งรถไฟใต้ดินและรถเมล์ ที่สำคัญราคาถูกสุดๆ รถเมล์ราว 1-2 หยวน รถไฟใต้ดินเริ่มต้นราว 3 หยวน ซื้อบัตรเติมเงิน TU Card ของ China T-Union ใบเดียวจ่ายได้ทั้ง 2 อย่างเลย ซื้อได้ตามสถานีใหญ่ๆ หรือให้ง่ายก็ซื้อจากที่สนามบินไปเลย เติมเงินได้เองจากเครื่องอัตโนมัติ
Application ในการเอาตัวรอดที่จีน
Ailpay ใช้ในการจ่ายเงินแทบทุกสิ่ง เราผูก app กับบัตร Multi-currency wallet เช่น บัตร Youtrip ในการชำระเงิน หรือจะผูกบัตรเครดิตก็ได้ แต่บัตรเครดิตถ้ารูดเกิน 200 หยวนจะโดนชาร์ท 3% ส่วนตามร้านหรือโรงแรมใหญ่ๆ และที่ซื้อตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ รับบัตรเครดิต Visa Master ได้นะ ส่วนเงินสดคือไม่ได้ใช้เลย
Apple Map เราใช้แค่ App นี้ในการเดินทางในปักกิ่ง search หาได้ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน และรถเมล์ คือสะดวกมาก ไม่โดนบล็อกด้วย
Google Translate อันนี้ใช้เวลาคุยกันไม่รู้เรื่องจริงๆ แล้วต้องแปล ก็พูดให้ app ช่วยแปลเอา แต่ต้องโหลดไปก่อนตั้งแต่ไทยนะ และใช้ SIM card ไทยเท่านั้นถึงจะใช้งาน Google ได้
Klook พวกดีลที่เที่ยวต่างๆ จองก่อนล่วงหน้าไปเลยสะดวกมาก คือพวกที่เที่ยวหลักๆ ในปักกิ่งแทบจะออนไลน์ทั้งหมดแล้ว บางอันจองผ่านเว็บได้ บางอันต้องจองผ่าน WeChat ถ้าให้แนะนำใช้พวก Klook จองล่วงหน้าไปเลย สะดวกมาก ไม่ว่าจะบัตรสวนสนุก Universal Studio Beijing (USB) บัตรเข้าพระราชวัง หรือ พวกทัวร์ไปกำแพงเมืองจีน เวลาไปถึงก็สแกน QR Code จากใน Application เพื่อใช้เข้าได้เลย หรือบางที่ก็ใช้ Passport ตัวจริงๆ แสกนเข้า (ระบบดึงเลข Passport มาจากตอนที่เรากรอกข้อมูลเข้าไปตอนซื้อตั๋ว)
จองบัตรสถานที่ท่องเที่ยวในปักกิ่งได้ง่ายๆ ผ่าน Klook
Universal Studio Beijing
อย่าง Universal Studio Beijing เราซื้อบัตรล่วงหน้าจาก Klook ราคาดีมาก ใช้งานง่ายด้วย แค่เอา Passport ในการแสกนเข้าสวนสนุกได้เลย คือบอกเลยว่าต้องมาจริงๆ เพราะเป็น Universal Studio อันใหม่และใหญ่ที่สุดในโลก (จากทั้งหมด 5 ที่) เปิดไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อช่วงโควิดที่ผ่านมานี่เอง ทุกอย่างยังดูใหม่หมด แถมมีโซนไฮไลท์อย่าง Jurassic World และ Kung Fu Panda ที่มีแค่ที่นี่ที่เดียวในโลกอีกด้วย ต้องมาแล้วละ อย่างเรามาวันธรรมดาคือคนน้อยเที่ยวง่ายจนไม่ต้องซื้อบัตรแบบ Express เลย (แล้วแต่ช่วงนะ) ได้เล่นเครื่องเล่นไฮไลท์ครบเกือบหมด
ทัวร์กำแพงเมืองจีนด่าน Mutianyu
เราจองผ่าน Klook เช่นกัน (Full day tour) สะดวกมาก ก่อนวันเดินทางจะมี จนท ติดต่อมานัดหมายล่วงหน้า 1 วันผ่าน WeChat เพื่อนัดแนะจุดนัดพบในตัวเมือง ก่อนขึ้นรถบัสออกไปที่ด่านราว 1.5 ชม. ที่ด่าน Mutianyu เป็นด่านที่ได้รับการบูรณะแล้วอย่างสมบูรณ์ มีกระเช้าพาขึ้นลงภูเขาสะดวกสบายมาก เป็นหนึ่งในด่านที่แนะนำเลย ขากลับรถบัสพามาส่งแถวย่านช๊อปปิ้งใจกลางเมืองปักกิ่งส่งช่วง 4โมงเย็น
การจองบัตรพระราชวังต้องห้าม จะต้องจองผ่าน Official Website ของวังเท่านั้น เปิดให้จองได้ล่วงหน้า 7 วัน ในเวลา 19.00 น. ตรง (เวลาไทย) ยังไงนับวันก่อนเข้าไปจองให้ดี เพราะช่วงพีคๆ เต็มเร็วมาก เปิดระบบไม่เกิน 10 นาทีหมด เราแนะนำตัดบัตรเครดิตไปเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปชำระเงินหน้างานที่บางทีแถวยาวเสียเวลา
Summer Palace พระราชวังฤดูร้อน
พระราชวังฤดูร้อนถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาดพอๆ กับพระราชวังต้องห้ามเลย มาที่นี่ควรมีเวลาอย่างน้อยครึ่งวันเป็นอย่างต่ำ เพราะจะมีทั้งพื้นที่ของตัวพระราชวังที่ตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบ และพื้นที่สวนสาธารณะรอบทะเลสาบ ที่หากใช้เวลาเดินกันจริงๆ อาจมีครึ่งวันถึงเต็มวัน แต่ถ้าเอาฉบับรวบรัดแค่ตัววังไม่เดินรอบทะเลสาบ สัก 2-3 ชั่วโมงก็น่าจะพอโอเคอยู่
ความสะอาด
ยังให้เป็นรองเซี่ยงไฮ้นิดนึง แต่โดยรวมคือสะอาด ทิ้งขยะเป็นที่ ไม่ค่อยเห็นคนถ่มน้ำลาย (คือมีแต่น้อยมาก) ห้องน้ำตามสถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมโอเค ถ้าแบบสาธารณะน่อยก็ยังเข้าได้แค่อาจไม่ประทับใจมาก
ความปลอดภัย
อันนี้คือสุดๆ คือจุดตรวจมีทั่วเมือง มีตำรวจ ทหาร เยอะมาก พื้นที่สำคัญๆ อย่างเทียนอันเหมิน คนจีนเองจะเดินเข้ายังต้องแสดงบัตร id card ส่วนเราก็โชว์ passport คือต้องพกติดตัวตลอด และสถานีรถไฟฟ้าก่อนเข้าระบบต้องแสกนกระเป๋าทุกครั้ง กล้องวงจรปิดถี่ยิบ
บทสรุปการเที่ยวปักกิ่งด้วยตัวเอง คือเมืองที่ประทับใจมากพอๆ กับเซี่ยงไฮ้ สามารถมาซ้ำได้เพราะมีอีกหลายสิ่งที่เราเองก็ยังไม่ได้ไปชม ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ และไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ แต่เตรียมใจเรื่องการเดินและรองเท้าดีๆ มาเลยนะ เดินเยอะแน่นอน แถมตอนนี้ free visa แล้วด้วย คนไทยมาง่ายมาก ซื้อตั๋วเครื่องบินมาได้เลย เที่ยวบินตรงจากประเทศไทยมีให้เลือกได้หลากหลายสายการบิน เดินทางแค่ราว 4.30 ชั่วโมงเอง ยิ่งถ้าใครไปเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตแถวภูมิภาคนี้มาหมดแล้ว เราคิดว่าเป็นโอกาสดีแล้วละที่จะได้ลองมาปักกิ่งดูบ้าง รับรองเลยว่าประทับใจแน่นอน