Bali - Ijen - Bromo Wonderful Indonesia
6 วัน 6 คืนบนผืนแผ่นดินแห่งวงแหวนไฟ🔥 อินโดนีเซีย🇲🇨
OnTheJetPlane จะพาไปชมวิว+พาเที่ยว แบบไม่ได้รูปสวยเราจะไม่กลับ
📌 #ไฮไลท์
-ถ่ายรูปแสงเช้าที่วัด Ulun Danu Beratan Temple
-ไปถ่ายรูปคูลๆ ชิคๆ ที่เกาะ Penida Island
-ชม Blue Fire หนึ่งในไม่กี่ที่บนโลกนี้
-ดูพระอาทิตย์ขึ้นคาตาบนความสูงกว่า 2,300 เมตร
-สัมผัสวิวแบบอลังๆที่จุดชมวิว KingKong Hill
-ปิดท้ายกับเดินบนปากปล่องภูเขาไฟที่โบรโม่
📌 #สิ่งที่ต้องเตรียม
-เงิน ทริปนี้เราเงินประมาณ 20,xxx บาท อาหารราคาไม่แพง ที่พักถูก สำคัญที่ว่าเราจะได้ราคาตั๋วมาเท่าไหร่ ส่วนราคาของคนนำเที่ยวของเราในทริปนี้อยู่ราว 350 ดอลลาร์สหรัฐ/คน โดยเราไปทั้งหมด 4 คน (ประมาณหนึ่งหมื่นบาทไทย)
-แรง ต้องตื่นเช้ามาก นอนบนรถ นอนไม่เป็นเวลา
-ยาแก้เมารถ เนื่องจากถนนระหว่างทางทั้งขรุขระ แคบ ถนนเลนเดียว ใครไม่จิตแข็งมีเมารถแน่นอน
-หน้ากากกันแก๊ซพิซแบบเท่ห์ๆ เอาไปไว้ถ่ายรูปกับ Blue Fire
-ผ้าปิดปาก หรือ หน้ากากกันฝุ่น pm 2.5 เพราะทั้งฝุ่นและทรายเยอะมาก
-กล้องดีๆ ซักตัวครับ รอบนี้แอดมิน ใช้ Sony A7 mark3 ร่วมกับเลนส์ 17-28 2.8 tamron, 28-75 2.8 tamron, 100-400 4.5-5.6 GM Master และก็โดรน Mavic
📌#อาหาร
คล้ายๆไทยเลยครับ ในตัวบาหลียังพอทานหมูได้ แต่ข้ามเกาะมาทางชวา จะทานไก่กันเป็นหลักครับ
📌#ที่ตั้ง
ห่างจากรุงเทพมหานครโดยการนั่งเครื่องบินไปแค่ 4 ชม.กว่าๆ ที่บาหลีเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม.
📌#แผนการเดินทาง
Day1 Bangkok - Bali - Uluwatu Temple
ตั้งแต่เช้ามืดครับที่เราจะต้องไปสนามบินดอนเมือง รอบนี้เราใช้บริการสายการบินไทยแอร์เอเชียบินตรงไปยังบาหลี ซึ่งวันนึงมีบินตั้ง 3 ไฟล์ทต่อวัน แอ๊ดมินเลือกไฟล์ท FD396 เวลาออก 0615-1130 เวลากำลังดีได้เที่ยวช่วงครึ่งบ่ายด้วยครับ
นานๆจะได้บินไฟล์ทเช้าครับ รอบนี้ได้นั่งริมหน้าต่าง ก็เลยได้เก็บภาพระหว่างเครื่องขึ้น
ตั้งแต่วันนี้ จนถึงสิ้นเดือนกันยายน ทางแอร์เอเชีย มีเมนูพิเศษ ทั้งเบอร์เกอร์ตัวใหม่ อาหารเกาหลี รวมถึงขนมจากร้านดัง After You สำหรับใครมีบัตรแอร์เอเชียธนาคารกรุงเทพ อย่าลืมใช้สิทธิ์แลกรับเครื่องดื่มมูลค่า 60 บาทฟรีนะครับ
เวลาเครื่องมาถึงตามเวลาครับ ผ่านตม. รับกระเป๋า รอบนี้เราได้จ้างคนนำเที่ยว พร้อมเป็นคนขับรถให้เราด้วยชื่อว่า Mr.Hadi แต่แล้วก็มีเหตุการณ์เมื่อ Hadi เมสเสจมาบอกเราว่า มาไม่ทันนะยู ไอให้โรงแรมมารับก่อน แล้วไว้เจอกัน ทำให้เราเสียเวลาเที่ยวไปประมาณ 2 ชม. อ้อลืมบอกครับ วันนี้เราพักแถว Kuta ครับ
วันนี้ช่วงบ่ายถึงเย็น เราจะไปล่าแสงเย็นที่วัด Uluwatu Temple ครับเนื่องจากตอนที่เราเดินทางจากสนามบินมา รถติดมากกกกกก จะไปแต่ละที่ก็ต้องเผื่อเวลา ใครจะมาบาหลี แนะนำเผื่อเวลาเดินทางด้วยครับ!!!!!
วัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple)
วัดนี้ไฮไลท์อยู่ตรงที่วัดสร้างอยู่ริมหน้าผา มีวิวเป็นพระอาทิตย์ตก แสงสาดส่องกับทะเล ได้บรรยากาศฟินๆกันไป
⛔️⛔️⛔️ข้อควรระวัง ลิงที่นี่ดุและซนมาก อุปกรณ์ติดตัวทั้งหลายควรเก็บไว้ให้มิดชิดครับ ทั้งแว่นตา หมวก มือถือ มิฉะนั้นเสร็จลิงแน่!!
Day2 Penida Island (Daytrip)
วันนี้เราจะไปเที่ยวเกาะ Penida Island กันครับ
วันนี้เราจะตื่นเช้า (เหมือนเดิม) เพื่อไปให้ทันเรือสปีดโบ๊ทตอน 0830 ครับ ระยะการเดินทางประมาณ 50 นาที เมื่อเราขึ้นฝั่งที่เกาะ Penida เราจะมีจุดเชคอินชิคๆ 3 ที่ครับที่เราจะต้องไปกัน
1.Angel's Billabong แอ่งน้ำเค็มธรรมชาติที่สอดแทรกอยู่ริมหน้าผา เราสามารถลงไปเดินเล่นได้ถ้าน้ำลง
2.Broken Bridge แลนด์สเคป ที่เป็นส่วนเว้าของหน้าผา คล้ายรูปสะพาน
3.Kelingking Cliffview แลนด์สเคปอลังๆ ที่มุมนี้ใครก็ต้องมาเชคอิน
เรือ Speedboat ที่เราจะนั่งกันไปในวันนี้ครับ
Angel's Billabong แอ่งน้ำเค็มธรรมชาติที่สอดแทรกอยู่ริมหน้าผา เราสามารถลงไปเดินเล่นได้ถ้าน้ำลง
Broken Bridge แลนด์สเคป ที่เป็นส่วนเว้าของหน้าผา คล้ายรูปสะพาน
Kelingking Cliffview แลนด์สเคปอลังๆ ที่มุมนี้ใครก็ต้องมาเชคอิน
หลังจากที่ได้ถ่ายรูปกันอย่างจุใจ ก็ถึงเวลากลับบาหลีกันแล้วครับ
Day3 Ulun Danu Bertatan Temple - Ijen
เข้าสู่วันที่ 3 แล้วครับวันนี้เราจะไปถ่ายรูปยามพระอาทิตย์ขึ้นที่ อูลุน ดานู เบราตัน (Ulun Danu Beratan Temple) ซึ่งเป็นที่ๆแอ๊ดมินอยากมามากที่สุดแล้วครับ เห็นแต่ในรูปมานาน วัดนี้นั่งรถจากเมือง Ubud มาประมาณ ชม.นึงครับ ซึ่งขอบอกเลยว่ามาชมแสงเช้าที่นี่ ถือว่าคุ้มมากครับ
วัดนี้มีจุดเด่นที่สร้างอยู่กลางน้ำริมทะเลสาบ Bratan
หลังจากนั้นเราก็กลับมาอาบน้ำ เก็บของที่โรงแรม แล้วเราจะเดินทางไปอีเจี้ยนกันครับ เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม. (รวมข้ามเฟอร์รี่)
วันนี้เวลานั่งรถเราต้องเก็บแรงพยายามหลับให้ได้มากที่สุดครับ เพราะเราจะไปถึงที่พักประาณทุ่มนึงและเราต้องเชคเอาท์เที่ยงคืนครึ่ง เพื่อไปเตรียมและเริ่มเดินขึ้นเขาตอนตีหนึ่งครับ
ระหว่างนั่งเฟอร์รี่ข้ามไปยังฝั่งชวาตะวันออก เบื้องหน้าที่เห็นในรูปนั่นก็คือ Gunung Merapi Ungup-Ungup ซึ่งภูเขาไฟอีเจี้ยน จะอยู่ด้านหลังของเขานี้ครับ
Day4 ljen - Bromo
เวลาตีหนึ่งเราเริ่มเดินขึ้นเขาครับ เป็นระยะทาง 3.3 กิโลเมตรเป็นทางขึ้นเขาตลอดทางไปจนถึงปากปล่อง ต่อด้วยเราจะต้องเดินลงไปดู Blue Fire อีกประมาณ 500 เมตร ขาลงไม่เท่าไหร่ครับ แต่ขาขึ้นนี่หอบเลยครับ แถมต้องรีบอีกจะต้องต้องเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งจุดนั้นห่างไปอีก 1 กม
เมื่อเราเริ่มเดินลงไปเพื่อดู Blue Fire ไม่ต้องห่วงเรื่องเส้นทาง เพราะจะมีคนเดินลงไปกับเราตลอด ไฟส่องทางจากไฟฉายบนหัวก็สว่างเป็นสายลงไปเลยครับ
พอเริ่มเข้าใกล้เราต้องเตรียมใส่หน้ากากกันแก๊สพิซแล้วครับ เพราะเนื่องจากกลิ่นกำมะถันเผาไหม้นั้นฉุนและแสบตามาก (เวลาเข้าใกล้มากๆ ระวังเจอลมย้อนพัดมาหาเรา แอ๊ดนี่รู้เรื่องเลย ทั้งหายใจไม่ออก จะอ้วก แถมแสบตา) เลยต้องรีบขึ้นมาอยู่ในระยะที่ปลอดภัยเลยครับ
ทางเดินลงไปดู Blue Fire ครับ ชันมากๆ
เราขึ้นมาก็เกือบสว่างแล้วครับ มองลงไปด้านล่างก็จะเจอทะเลสาบอีเจี้ยน (Kawah Ijen)
จากนั้นเราต้องเดินเลาะปากปล่องไปอีกประมาณ 1 กม.ครับ เพื่อรอพระอาทิตย์ขึ้น
เหล่ากองทัพมด ผู้พิชิตยอดปากปล่องอีเจี้ยน
ตรงควันๆนั่นแหละครับที่เมื่อเช้ามืดเราเดินลงไป
ได้เวลาก็เริ่มเดินลงกันแล้ว
1 ในอาชีพที่เสี่ยงตายที่สุดในโลกครับ กับอาชีพเก็บกำมะถันมาขาย
เมื่อชมวิวจนหนำใจแล้วก้ได้เวลาเดินลงครับ เพื่อเตรียมไปโบรโม่ต่อ เพราะจะไปล่าแสงเย็นกันต่อ ใช้เวลานั่งรถประมาณ 6 ชม ครับ ระหว่างทางขอให้ไกด์จอดปั้มน้ำมันเพื่ออาบน้ำด้วยครับ
และแล้วเราก็มาถึงบริเวณโบรโม่ครับ เราเลือกจุดชมวิว Seruni Point
โชคดีมากครับที่พระอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า เลยได้เก็บรูปสวยๆกันไป
Day5 Bromo - Surabaya - Bali
วันนี้เราต้องตื่นตีสี่ครับ จะมีรถ Jeep สีฉูดฉาดมารับเรา เพื่อขับรถพาเราผ่าน Sea of Sand และวันนี้เราเลือกจะไปชมวิวภูเขาไฟโบรโม่ จากจุดชมวิวที่ชื่อว่า KingKong Hill ครับ ระยะทางจากเมืองที่เราไม่ไกล แต่รถเยอะและรถติดมากครับ กว่าจะถึงก็ต้องไปหาที่ตั้งขาตั้งกล้องครับ เพื่อรอถ่ายแสงเช้า
จุดชมวิว Kingkonghill
ภูเขาไฟโบรโม่แบบหน้าตรง
เมือง Cemerolawang
จากนั้นประมาณ 7 โมง เราก็กลับมาขึ้นรถ เพื่อต่อลงไปยัง Sea of Sand ถ่ายรูปกับรถแบบเท่ห์ๆ ก่อนไปเดินขึ้นยอดโบโรโม่
การเดินขึ้นยอดโบรโม่ ในช่วงแรกเราต้องเดินผ่าน Sea of sand ก่อนประมาณ 1 กิโลเมตรเพื่อที่จะไปถึงฐานปล่อง หรือเราจะนั่งม้าเพื่อไปถึงปากปล่องก็ได้เช่นกันครับ ราคาประมาณ 150,000 รูปเปีย
รถ Jeep ที่เราใช้ตะลุยในวันนี้ครับ
ใครขี้เกียจเดิน มีบริการนั่งม้าไปนะครับ
เมื่อเราถึงปากปล่องก็ต้องเดินขึ้นครับ ประมาณ 200-300 เมตร ทางเดินค่อนข้างชันครับ แต่มีจุดหลบให้เราได้พักอยู่เรื่อยๆครับ เมื่อเดินขึ้นปากปล่อง ก็ถ่ายรูปกันซะให้หนำใจเลยครับ
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาโรงแรมเพื่อมาอาบน้ำเก็บของ แล้วนั่งรถตรงดิ่งไปยังสนามบินสุราบายา เพื่อเดินทางกลับไปยังบาหลี ซึ่งเราก็ใช้บริการ AirAsia Indonesia ครับสำหรับเที่ยวบิน QZ7624 1910-2120
Day6 Bali - Bangkok
วันนี้เราก็ตื่นสายๆครับ แล้วก็ไปสนามบินเชคอินที่เคาเตอร์สายการบินแอร์เอเชีย ไฟล์ท FD397 เครื่องออกเวลา 1200-1525 และแล้วเราก็มาถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพครับ
.....ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้อ่านจนจบครับ.....
#บัตรแอร์เอเชียธนาคารกรุงเทพ
#ไปบาหลีไปกับแอร์เอเชีย
#ไทยแอร์เอเชีย