top of page
รูปภาพนักเขียนOn The Jet Plane

SiemReap | เสียมเรียบ...เที่ยวง่ายๆ 3D2N ก็ไปได้


On The Jet Plane เพิ่งมีโอกาสได้ไปเที่ยวเสียมเรียบเป็นครั้งแรก เพราะว่าไปเห็นโฆษณาของ Airasia Big เปิดให้แลกแต้มถู๊กถูก ใช้แค่ 1,000 BIG Points ไป-กลับ บวกเงินค่าภาษีสนามบินอีกไม่กี่พันบาทก็ไปได้แล้ว แถมกัมพูชายังเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ เดินทางง่าย ไปวันหยุดสุดสัปดาห์ ลางานเพียงแค่วันเดียวก็เที่ยวได้แล้ว และที่สำคัญเลยคือ สถานที่ที่เราจะไปนั้นเป็นถึงสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเลยนะ เห็นรีวิวแบบนี้แล้วจะช้าอยู่ทำไม จัดไปสิครับ !!!

เริ่มกันที่นี่ก่อนเลย...สนามบินดอนเมืองอันคุ้ยเคย แต่ก่อนอื่นลองมาดูแผนเที่ยวแบบ 3D2N คร่าวๆกันก่อนดีกว่า

พฤหัสบดี

ออกเดินทางไฟลท์ดึกกับเที่ยวบิน FD618 เวลา 2010 – 2120 ไปแค่ 3 วัน 2 คืน กระเป๋าไม่โหลด ประหยัดไปหลายร้อย ที่นั่งก็ไม่ต้องเลือกเพราะขึ้นไปก็หลับแล้ว ขอให้มาถึงสนามบินก่อนหนึ่งทุ่มเป็นใช้ได้

หลังจากเครื่องแลนด์ปุ๊ป เดินทางเข้าสนามบินโดยตุ๊กๆ เพื่อไปเชคอินที่โรงแรมแล้วก็ไปหาอะไรกินก่อนนอน หรือถ้าไม่หิวก็นอนเลยจ้า (วันนี้ควรคุยกับทางโรงแรมให้เรียบร้อยเรื่องทัวร์หรือรถเช่าให้เรียบร้อยก่อนนะ)

*ช่วงนี้แอร์เอเชียมีสุ่มเช็กขนาดและน้ำหนักกระเป๋านาจา ใครมาแบบหอบฟางโดนจับโหลดหน้าเกตหมดจ้า

ศุกร์

วันนี้เราเลือกบิ๊กทัวร์ ทัวร์รอบนอก 6 ปราสาท ได้แก่ ปราสาทบันเตียสะเรย > ปราสาทเปรี๊ยคัน > ปราสาทเนียกปูน > ปราสาทตาสม > ปราสาทแปรรูป > ปราสาทกอกโป เรียกว่าเที่ยวยาวไปทั้งวันจนเสร็จช่วง 5 โมงเย็นค่อยกลับมานอนพักผ่อนที่โรงแรมก่อน

ค่ำๆเราค่อยออกไปหาอะไรกินกัน ไม่ว่าจะเป็นตรง Pub Street หรือจะเป็น Street Food หรือจะย่าน Night Bazar ก็เลือกเอามใจชอบ เพราะจริงๆแล้วอาหารก็เหมือนๆกันหมดนั่นแหละ

เสาร์

ตื่นตี 4.45 ออกเดินทางไปถ่ายแสงเช้าที่อังกอร์วัดช่วง 05.30-06.30 (ขอบอกว่าพลาดไม่ได้) ถามว่าทำไมไม่ไปออกไปตอนเวลา 05.30 น. เพื่อไปถึงจะได้เห็นแสงเช้าเลยล่ะ ขอบอกว่าไม่ทันแน่นอน เพราะคนเยอะล้านแปด จะถ่ายตรงไหนก็มีแต่คน ฉะนั้นเวลานี้ขอบอกเลยว่าดีที่สุด แล้วก็กลับมาที่โรงแรม กินอาหารเช้าแล้วก็งีบเอาแรงซักหน่อย

สายๆซัก 10 โมงกว่าๆ เก็บของฝากโรงแรมพร้อมคืนห้อง แล้วเราก็ไปกับรถตุ๊กๆบ้าง เพราะวันนี้เราจะเที่ยวในเขตสมอลทัวร์ ปราสาทตาแก้ว > ปราสาทตาพรม > ปราสาทพนมบาแค็ง > ปราสาทบายน > ตบท้ายด้วยนครวัด > ทัวร์จะเสร็จช่วง 5 โมงเย็นเราสามารถไปชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าได้ แต่วันนี้เราเที่ยวทั้งวันและได้ถ่ายแสงก็ฟินละ

กลับมาแถวโรงแรมหาอะไรกินก่อนกลับไปสนามบิน เอ้อ....สนามบินมีสตาร์บัคนะ ใครชอบสะสมแก้วมาซื้อได้เลย

ขากลับขึ้นเที่ยวบิน FD619 เวลา 2205 – 2250 ก่อนเครื่องออกถ้าใครหิว ก่อนขึ้นเครื่องทั้งร้านกาแฟ โยชิโนยะ เบอเกอร์ คิงส์ อาหารท้องถิ่น มีให้เลือกเพียบ แต่ขอบอกว่าราคาแรงมาก ถ้าไม่หิวจริงๆแนะนำว่า หิ้วท้องกลับมากินข้าวต้มที่กรุงเทพจะดีกว่า

เอาละ เมื่อรู้โปรแกรมการเดินทางคร่าวๆกันแล้ว ออกไปลุยเมืองเสียมเรียบด้วยกันแบบเต็มๆเลยดีกว่า

ก่อนขึ้นเครื่อง ถ้าใครมีบัตร King Power อย่าลืมเข้าใช้บริการเลาจน์ได้นะ พร้อมพาผู้ติดตามเข้าได้อีกสองท่านนะครับ ประหยัดค่าอาหารเย็นไปได้อีกมื้อ

วันนี้เราได้บัสเกตกระเตงๆ กระเป๋ามาขึ้นเครื่องกันดีกว่า (เน้นย้ำว่าทางแอร์เอเชียเขาเริ่มเข้มกับการตรวจกระเป๋าแล้วนาจา)

อย่าลืมกรอกใบตรวจคนเข้าเมืองพร้อมกับใบศุลกากรจากทางฝั่งกัมพูชาให้เรียบร้อยก่อนลงจากเครื่อง

ลงเครื่องปุ๊ปก็เหมือนฝูงผึ้งแตกรัง ทั้งผู้โดยสารที่ยังไม่ได้กรอก คนมาทำ Visa on arrival แต่สำหรับเราก็เดินเท่ห์ๆไปหาเจ้าหน้าที่ได้เลย

โรงแรมที่เราจองมีบริการมารับที่สนามบินด้วย โดยจะใช้ตุ๊กๆด้านบนนี้ เก๋มาก นั่งไปหัวฟูไป

โรงแรมราคาไม่เกินคืนละ 700 บาท/2คน แถมมีอาหารเช้าให้ด้วย ถูกและดีมาก

เนื่องจากวันนี้เราจองทัวร์กัน แต่ไม่รวมค่าเข้าชมเขตโบราณสถาน ฉะนั้นเราต้องมาซื้อกันก่อน โดยเราเลือกแบบ 3 วัน ราคา 62$

เริ่มกันที่ปราสาทแรกของวันจากทั้งหมด 6 ปราสาท โดยปราสาทนี้มีชื่อว่า "บันเตียสะเรย" เป็นปราสาทที่สร้างได้อยู่เตี้ยๆกว่าปราสาทอื่นๆ เพราะว่าผู้สร้างเป็นแค่พราหมณ์ไม่ใช่กษัตริย์ และเป็นการให้เกียรติแก่ราชวงศ์ด้วย ซึ่งทีเด็ดของปราสาทนี้คือเป็นปราสาทหินทรายสีมชมพูที่เดียวในอาณาบริเวณเสียมเรียบ พร้อมทั้งสลักรูปวาดส่วนมากมาจากเรื่องรามเกียรติ์

มาต่อกันที่ปราสาทที่สอง มีชื่อว่า "เปรี๊ยคัน" เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นเพื่อให้เปรียบเสมือนชัยชนะของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่มีต่อพวกจามและสร้างเพื่ออุทิศให้แก่พระราชบิดาด้วยนั่นเอง

ปราสาทที่สาม ปราสาท "เนียกปูน" เป็นปราสาทที่อยู่กลางสระน้ำ แต่ถ้าในฤดูร้อน เราสามารถเดินเข้าไปชมใกล้ๆได้เลยเพราะน้ำจะแห้งหาย สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ตามแบบตำนานในสมัยก่อนที่พระพุทธเจ้ามาสรงน้ำในป่าหิมพานต์

เมื่อมาถึงพักกลางวันทัวร์จะพาเรามาลงร้านอาหารที่ซึ่งแพงมากกกก จานละ 5-8$ แต่จากที่เราทำข้อมูลมาครับ เราไเดินเล่นเตร็ดเตร่พร้อมกับเจอร้านขายขนมปังบาแกตต์ ที่ก็อิ่มได้ในราคาแค่ 2$ เท่านั้น

พอเข้าสู่ช่วงบ่าย เราก็เที่ยวกันรัวๆ เลยครับกับอีก 3 ปราสาทนั่นก็คือ ปราสาทตาสม / ปราสาทแปรรูป / ปราสาทกอกโป มาจบทัวร์อีกที่ราว 5 โมงเย็นครับ รถบัสก็มาส่งเราที่โรงแรมครับ แต่เนื่องจากวันแรกเรามาถึงดึกก็เลยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง แต่วันนี้เราต้องไปเดินสำรวจซะหน่อยครับ และก็ได้มาร้านนึงที่เก๋มาก เพราะเป็นร้าน Craft Beer ท้องถิ่นที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

โดยที่เบียร์ของที่นี่แบ่งออกเป็น 4 แบบ ประกอบไปด้วย Wheat beer, Lager beer, Pale Ale และ Strout beer ใครสนใจก็สั่งมาลองกันได้ครับ แก้วละประมาณ 2.5$ แต่ถ้าเป็นแก้วแบบในรูปสนนราคาอยู่ที่ถาดละ 6$ ครับ

พอค่ำๆหน่อย เราก็เดินทางไปหาอะไรกินต่อที่ PuB Street ครับ ที่ๆมีทุกอย่างให้เลือกสรร ใครใคร่จะกินอะไรตรงนี้มีหมดครับ แต่สำหรับวันนี้เรานอนดึกไม่ได้ครับ เพราะตอนเช้าเรามีนัดกับ รถตุ๊กๆไว้ตอน 0430 เพื่อที่จะออกเดินทางไปดูแสงเช้าที่นครวัดกัน

เราเริ่มออกเดินทางยามเช้าไปยังอังกอร์วัดกันดีกว่าาา

แท่นแท๊น...สวยงามสมใจกันไหมละครับ ตอนไปถึงเนี่ยคนยังน้อยอยู่เลย แล้วระหว่างเดินเข้าไปก็มองไม่เห็นอะไรเลยซักอย่าง ต้องใช้ไฟมือถือส่องตามทาง แต่ไม่ต้องห่วงเพราะจะมีคนเดินกันไปเป็นสายเลยเราก็เกาะๆเขาไปนั่นแหละทั่นผู้ชม และเมื่อฟ้าเริ่มสาง ต้องขอบอกเลยว่าภาพที่เราเห็นเบื้องหน้ามันตรึงตราตรึงใจมาก ชนิดที่ว่าคุ้มจริงๆกับการตื่นตีสี่ มายืนหนาวอากาศ 15 องศาร่วมชั่วโมง​ (ไปเมื่อช่วงต้นปี 61)

พอเริ่มสว่างแล้วคนก็เริ่มเยอะขึ้น ออกไปเก็บภาพบรรยากาศตอนเช้าต่ออีกซักหน่อยก่อนกลับไปทานอาหารเช้าและก็งีบซัก 2 ชั่วโมง จากนั้นช่วง 10 โมง เราทำการเช็คเอ้าท์พร้อมฝากของ และรอตุ๊กๆที่จะมารับเราเที่ยวในเขตสมอลทัวร์ ได้แก่ปราสาทตาแก้ว > ปราสาทตาพรม > ปราสาทพนมบาแค็ง > ปราสาทบายน > และตบท้ายด้วยนครวัด

รู้หรื่อไม่

ปราสาทอังกอร์วัดสร้างในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เพื่อเป็นปราสาทประจำรัชกาลตามศาสนา พราหมณ์-ฮินดู ซึ่งกว่าจะสร้างเสร็จใช้เวลาถึง 30 ปี ทั้งนี้เมื่อพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 สวรรคตก็ใช้เป็นที่ฝังพระศพอีกด้วย

มาถึงไฮไลต์ช่วงบ่ายก่อนไปดูนครวัด ก็ต้องที่นี่เลยครับ "ปราสาทบายน" ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งเป็นศูนย์กลางของนครธม ซึ่งจริงๆแล้วนครธมมีพ้นที่ใหญ่กว่าเกือบๆ 4 เท่าของนครวัด ซึ่งเสน่ห์ของปราสาทนี้ก็คือการสลักหน้าแบบศิลปะบายน ที่ทุกวันนี้ก็ยังหาไม่ได้ว่าเป็นใบหน้าของใคร?

เราปิดท้ายทริปกันที่นครวัด เพราะหลังจากเที่ยวเสร็จเรียบร้อยแล้ว คนขับตุ๊กๆก็พาเรากลับมายังโรงแรมเพื่อพักผ่อน และถือโอกาสไปหาอะไรกินกันก่อนกลับ ซึ่งก็ได้ทำให้มาสะดุดกับร้านคาเฟ่ร้านนึงที่ชื่อว่า Cafe Central ไหนๆเรานั้นมันก็สายเลือดกาแฟอยู่แล้วต้องขอไปลองซักหน่อย

บรรยากาศในร้านนี้ ก็จะเป็นไม้ๆ Outdoor อยู่เยื้องๆกับ Pub Street มีไวไฟฟรี จริงๆร้านนี้ไม่ได้ขายแต่กาแฟแต่มีอาหารนานาชนิดให้เลือกสรรเลย สามารถมาฝากท้องที่นี่ได้เลยครับ

เบียร์ท้องถิ่นจากซุปเปอร์มาร์เก็ต

ตุ๊กๆมาส่งเราที่สนามบิน เพื่อเช็คอินเที่ยวบิน FD619 เครื่องออกเวลา 2205 ซึ่งเรามาถึง 2100 ทันแบบฉิวเฉียดพอดี

วันนี้คาราบาวมารับเรากลับกรุงเทพครับ ขึ้นเครื่องปุ๊ปก็หลับกันทั้งลำ....และแล้วก็ถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพครับ

สรุปค่าใช้จ่าย (แบบไป 2 คน)

ตั๋ว

เสียไมล์คนละ 500 BIG Points

*เทคนิกแลกไมล์คือว่า จริงๆแต้มขึ้นให้แลก 1,000 แต้ม 2 คนก็ต้อง 2,000 แต้มถูกมะ??? แต่ตอนเราแลกใน App ก่อนจ่ายเงินหน้าสุดท้ายเราสามารถลดคะแนนแล้วเพิ่มเป็นเงินแทนได้ ซึ่งในทริปนี้ เราแลกไปกลับ เราลดเหลือให้แลกคะแนนแค่คนละ 500 แต้ม แต่จ่ายเพิ่มแค่ 180 บาท ซึ่ง คุ้ม!!!! ฉะนั้นใครจะแลกแต้มหน้าสุดท้ายลองชั่งใจดีๆก่อนว่าแบบไหนถึงจะคุ้มกว่ากัน

โดยรวมค่าตั๋วก็จะตกอยู่ไม่เกินนท่านละ 1,800 บาท

โรงแรม สองคนคืน 46$ (ถ้าโฮสเทลคืนละ 5$ ยังมีเลยเหมาะกับการมาคนเดียว)

ค่าเที่ยว + เดินทาง

ค่าเข้าปราสาท 62$

ค่าทัวร์วันแรก 15$

รถตุ๊กๆวันที่ 2 กับสมอลทัวร์ 15$

พร้อมไปชมแสงเช้า 10$ (ใครอยากประหยัดเที่ยวต่อได้เลยนะ แต่เราขอกลับไปนอนดีกว่า)

ไปส่งสนามบิน 5$

ค่าค่าอาหาร + เครื่องดื่ม

ก็แล้วแต่ที่จะเลือกสรรหากันเลย แต่ที่เราเจอถ้าข้างถนนก็ 1-2$/จาน แต่ถ้ากลางวันตุ๊กๆจะพาไปลงร้านก็จานละ 5-8$ ใครอยากประหยัดก็พกขนมปังติดกระเป๋าไปนะ (ฝรั่งทำกันเพียบ) ราคาน้ำก็ 0.5 – 1$/แก้ว โดยที่เราเสียค่าอาหารไปประมาณ 70$ กินเต็มอิ่มทุกมื้อ มีเบียร์ ซื้อขนมข้างทางกินด้วย

รวม

285$ ต่อสองคน

เมื่อเอามาคูณเป็นเงินไทย เรท 33 ก็จะเป็น 9,405 บาท

เมื่อหารสองคนก็จะเหลือเพียงแค่คนละ 4,703 บาท + ค่าตั๋ว 1,800 บาท = 6,502 บาท เท่านั้น

เรียกว่าถูกมากๆ แถมยังอยู่ใกล้เดินทางไปง่ายแค่ช่วง Weekend ก็ไปได้ เลิกงานวันศุกร์ขึ้นเครื่องไปเที่ยว กลับมาถึงไทยค่ำวันอาทิตย์ ตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้นไปทำงานต่อได้ วันลาไม่ต้องเสีย ชิคๆ เก๋ๆ มีเรื่องกลับมาเม้าท์กับเพื่อนต่อเช้าวันจันทร์ได้สบายๆ เพราะเสียมเรียบไม่ได้ไปยากอย่างที่คิดกัน

เห็นแบบนี้แล้วจะรออะไรละ จัดไปสิครับ ^^

**********************

ดู 569 ครั้ง
bottom of page