"มาเก๊า" หรือ Macao ในภาษาอังกฤษ (เมื่อก่อนเขียนว่า Macau) อดีตอาณานิคมเก่าแก่ของโปรตุเกส ที่ได้คืนกลับสู่การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ก่อนเข้าสู่สหัสสวรรษใหม่ในปี ค.ศ.1999 โดยในปัจจุบันมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดีในฐานะลาสเวกัสแห่งโลกตะวันออก แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากเรื่องคาสิโนแล้ว มาเก๊ายังมีสถานที่ศักศิทธิ์เก่าแก่อีกมากมายทีเป็นที่เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวมาเก๊า รวมทั้งนักธุรกิจและมหาเศรษฐีต่างๆ ที่มาทำธุรกิจบนเกาะแห่งนี้ จนสร้างกระแสให้นักลงทุนจากโลกตะวันตกได้รู้จักกับการสร้างธุรกิจและคานิโนให้ตรงตามหลักฮวงจุ้ยกันมาแล้ว
ในโอกาสนี้ On The Jet Plane จะขอพาทุกท่านออกเดินทางไปด้วยกันอีกครั้งในทริป Unseen มาเก๊า ตามรอยศรัทธา มหาเศรษฐี ไหว้พระเสริมดวงรับปีระกา กับอาจารย์คฑา ชินบัญชร หนึงในหมอดูชื่อดังของไทย และสายการบินไทยแอร์เอเชีย ที่จะพาทุกท่านไปปรับดวง เสริมฮวงจุ้ย ตามรอยเส้นทางของเหล่ามหาเศรษฐีชื่อดังที่มาไหว้พระขอพรเพื่อเสริมดวงกันบนเกาะมาเก๊าแห่งนี้ ที่เราจะไปทำความรู้จักกันในแบบ Unseen ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
เอาละครับ...ทริปนี้จะอิ่มบุญ อิ่มใจ พร้อมรับปีใหม่กันแค่ไหน ตามไปรับชมรีวิวด้วยกันได้เลย
ก่อนจะออกเดินทาง ลองมาทำความรู้จักกับข้อมูลเบื้องต้นของเมืองมาเก๊ากันก่อนครับ โดยวัดและศาลเจ้าที่เราจะไปตามรอยอาจารย์คฑากันในวันนี้จะตั้งอยู่บนฝั่งมาเก๊าทั้งหมด (ด้านบน) หรือก็คือฝั่งแผ่นดินใหญ่ที่เชื่อมต่อกับเมืองซูไห่ของประเทศจีนนั่นเอง ซึ่งก็มีสถานที่ที่จะมาแนะนำทั้งหมดจำนวน 6 แห่งด้วยกัน ประกอบไปด้วย
1. วัดเจ้าแม่กวนอิม (Kun Lam Temple)
2. วัดเปากง (Pau Kung Temple)
3. ศาลเจ้านาจา (Na Tcha Temple)
4. วัดกวนไท หรือศาลเจ้าพ่อกวนอู (Kuan Tai Temple)
5. วัดอาม่า (A-Ma Temple)
6. วัดลินฟง (Lin Fong Temple)
ส่วนสนามบินมาเก๊านั้นจะตั้งอยู่บนเกาะไทป้า (ด้านล่าง) ซึ่งในปัจจุบันก็มีสะพานถึง 3 แห่ง ที่เชื่อมต่อพื้นที่ทั้งสองฝั่งของเมืองมาเก๊าเข้าด้วยกัน โดยจากสนามบิน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าสู่ฝั่งตัวเมืองมาเก๊าได้หลากหลายวิธี ทั้งแท็กซี่หรือรถเมล์ แต่เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมดของมาเก๊ามีขนาดแค่เพียง 30 ตารางกิโลเมตรเพียงเท่านั้น รถเมล์จึงเป็นทางเลือกที่ถือว่าสะดวกและประหยัดมากที่สุดในการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองแห่งนี้ นอกจากนั้นโรงแรมและคาสิโนขนาดใหญ่เจ้าต่างๆ บนฝั่งมาเก๊าและฝั่งไทป้ายังมีบริการรถบัสรับส่งฟรีจากสนามบิน หรือท่าเรือ มายังโรงแรมของตนเองเพื่อให้บริการแก่แขกที่มากพักหรือมาเยี่ยมชมอีกด้วย ดังนั้นถ้าเราวางแผนการเดินทางด้วยรถบริการของทางโรงแรมเอาไว้ดีๆ ก็จะสามารถช่วยให้ประหยัดค่ารถเมล์ลงไปได้มากเช่นเดียวกัน
เมื่อรู้จักข้อมูลคร่าวๆ ของมาเก๊าและสถานที่ที่จะไปไหว้พระเสริมดวงรับปีระกาในครั้งนี้กันแล้ว เรามาออกเดินทางตามรอยบุญพร้อมอาจารย์คฑาไปด้วยกันเลยดีกว่าครับ
Kun Lam Temple
วัดเจ้าแม่กวนอิม
ถือได้ว่าเป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 โดยเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งเมื่อเดินผ่านประตูใหญ่หน้าวัดเข้ามาจะพบกับภาพองค์พระสังกัจจายน์ก่อนเป็นสิ่งแรก มีความพิเศษอยู่ตรงที่ ไม่ว่าจะยืนมองจากมุมใดก็ตาม จะสามารถเห็นสายตาขององค์ท่านมองมาในจุดที่เรายืนอยู่ตลอดเวลา แวะสักการะภาพองค์ท่านก่อนเป็นอย่างแรก จากนั้นจึงสักการะรูปปั้นของเหล่าท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 องค์ ที่ตั้งอยู่ติดๆ กัน ซึ่งทำหน้าที่คอยดูแลปกป้องจากภัยอันตรายต่างๆ จากทั้ง 4 ทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก ก่อนเดินเข้าไปสู่โถงใหญ่หรือหอพระโพธิสัตว์กวนอิมด้ายใน
นอกจากนั้นวัดแห่งนี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฐานะสถานที่ลงนามสนธิสัญญามิตรภาพระหว่างจีนและสหรัฐอเมริการ เมื่อปี ค.ศ.1844 อีกด้วย
ความพิเศษขององค์เจ้าแม่กวดอิมที่วัดแห่งนี้คือจะสวมเครื่องทรงอยู่ในชุดเจ้าสาวของจีนที่ได้รับการตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างดี และมีการปรับเปลี่ยนชุดที่สวมใส่อยู่ใหม่ในทุกปี โดยบริเวณด้านข้างจะรายล้อมไปด้วยรูปหล่อของเหล่า 18 อรหันต์ ซึ่งใครที่กำลังจะทำธุรกิจ หรืออยากให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ก็ต้องมาไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิม และองค์ไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่ตั้งอยู่ ณ โถงติดกัน เพื่อหยิบยืมเงินนำไปทำทุน โดยภายในวัดจะมีจุดจำหน่ายเครื่องเซ่นไหว้อยู่ 4 แบบด้วยกันทั้งชุดเล็กชุดใหญ่ตามแต่กำลังศรัทธา ตั้งแต่ 88-338 MOP (รับเงินฮ่องกงเช่นกัน) โดยชุดเครื่องเซ่นไหว้จะประกอบไปด้วยธูปเทียน เครื่องไหว้ และปึกเงินสำหรับการหยิบยืม
ว่ากันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากถึงขนาดที่มิสเตอร์สแตนลีย์ โฮ (Stanley Ho) เจ้าพ่อคาสิโนและเจ้าของธุรกิจรายใหญ่บนเกาะมาเก๊า ยังมาไหว้พระขอพรและหยิบยืมเงินจากองค์เจ้าแม่กวนอิม รวมทั้งองค์ไฉ่ซิงเอี้ย ที่วัดแห่งนี้ในทุกๆ ปี เพื่อนำเงินที่หยิบยืมไปเป็นทุนต่อยอดธุรกิจของปีถัดไป ซึ่งถ้าคำอธิฐานใดที่ขอเอาไว้สัมฤทธิ์ผลสมหวังดังปรารถนา ก็ต้องไม่ลืมที่จะกลับมาในปีหน้า เพื่อบริจาครวมทั้งไถ่ถอนเงินที่หยิบยืมเอาไว้ในปีก่อนคืนกลับไปด้วยเช่นกัน และไม่ลืมที่จะหยิบยืมเงินก้อนใหม่ของปีถัดไปอีกครั้ง
ภาพด้านล่าง อาจารย์คฑากำลังทำพิธีไหว้องค์ไฉ่ซิงเอี้ย และนำเงินที่ได้หยิบยืมไปในปีที่ผ่านมากลับมาคืน
Pau Kung Temple
วัดเปากง
วัดเปากงนั้นตั้งอยู่ติดกับศาลเจ้าแห่งเทพการแพทย์ (Temple of Divinity of Medicine) ซึ่งอยู่ในกลุ่มอาคารเดียวกัน แต่มีประตูเข้าออกแยกจากกันอย่างชัดเจน โดยวัดเปากงนั้นอยู่ทางฝั่งซ้าย ได้รับการสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1889 เนื่องจากความอดอยากยากแค้นของชาวบ้านที่โดนเจ้าหน้าที่รัฐเอารัดเอาเปรียบ จึงได้มีการรวมตัวกันเพื่อสร้างศาลและอัญเชินองค์เปาปุ้นจิ้นมาประทับ เพื่อให้ชาวเมืองอยู่ดีมีสุข จึงเหมาะที่จะมาไหว้ขอพรจากเทพเปากงให้ช่วยปัดเป่าคนปองร้าย หรือหากใครที่ทำธุรกิจก็เหมาะที่จะมาขอพรให้เทพเปากงช่วยดูแลในเรื่องเอกสารสัญญาต่างๆ ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ส่วนใครที่กำลังจะเตรียมสอบในเรื่องกฎหมาย ทนายความ ก็มาขอพรได้เช่นกัน
นอกจากนั้น อย่าลืมแวะแก้ชงที่หอเทพไท้ส่วยเอี๊ยที่มีมากถึง 60 องค์ด้ยกันตั้งเรียงรายอยู่รอบห้องสลับกันไปตามแต่ปีนักษัตร หรือสามารถสังเกตได้ง่ายๆ จากปี ค.ศ. ที่เขียนกำกับเอาไว้ใต้ฐานขององค์ไท้ส่วยเอี๊ยแต่ละองค์ได้เลย
ส่วนศาลเจ้าแห่งเทพการแพทย์นั้นตั้งอยู่ติดกันทางฝั่งขวา ได้รับการสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1893 เพื่อปกป้องคุ้มครองชาวบ้านจากโรคระบาดที่เกิดขึ้น นิยมมาขอพรเพื่อให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และที่ห้ามพลาดเลยคือต้องเดินเลขเข้าไปถึงด้านในสุด เพื่อขึ้นบันไดต่อไปยังชั้นสอง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระนอนปางเสวยสุข หรือเอกขเนก ที่แตกต่างจากองค์พระนอนของที่อื่น เนื่องจากเป็นท่านอนที่ยกขาขึ้นมาไขว่ห้างข้างหนึ่ง เชื่อว่ามีฤทธิ์ในเรื่องขจัดปัดเป่าความโชคร้ายและสิ่งไม่ดีออกไป หรือคนที่โดนคุณไสย
ส่วนการไหว้นั้น สามารถใช้ชุดธูปเทียนที่มีจำหน่ายอยู่ภายวัดได้เลย รวมทั้งผลไม้ยอดนิยมของคนจีนอย่างส้มและแอ๊ปเปิ้ล ซึ่งเปรียบดังทอง (ส้ม) และสุขภาพ (แอ๊ปเปิ้ล) เพื่อนำมาซึ่งความร่ำรวยและความแข็งแรงของผู้ไหว้นั่นเอง
Na Tcha Temple
ศาลเจ้านาจา
ถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่หาง่ายและไปเยือนง่ายมากที่สุดแห่งหนึ่งเมื่อมามาเก๊า เพราะว่าตั้งอยู่ด้านหลังซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล Landmark สำคัญของมาเก๊าที่ใครๆ ก็ต้องมาเยือน ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้เหมาะเป็นอย่างมากแก่คนที่ต้องการขอลูกหลานไว้สืบสกุล หรือขอให้ตนเองมีสุขภาพพลานมัยแข็งแรงสมบูรณ์เฉกเช่นเดียวกับนาจา
แต่เนื่องจากองค์นาจานั้นมีฤทธิ์มาก ซุกซน กล้าหาญ ไม่เกรงกลัวใคร ถ้าหากมาขอลูกที่นี่แล้วอาจจะได้ลูกที่ซนมากเหมือนกับนาจากลับไป ดังนั้นเมื่อไหว้องค์นาจาเสร็จแล้ว ต้องอย่าลืมไหว้องค์แม่นาจาซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ ทางฝั่งขวาภายในศาลด้วยเช่นกัน สังเกตได้ง่ายๆ องค์แม่นั้นจะถือคำภีร์สอนลูกอยู่ในมือ จะได้รู้วิธีกำหราบลูกให้อยู่ในโอวาท ว่านอนสอนง่าย และกตัญญูรู้คุณบิดามารดานั่งเอง
เมื่อไหว้ศาลเจ้านาจาเสร็จแล้ว จะเดินไปเที่ยวชมความงามของซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล หรือช๊อปปิ้งต่อที่จตุรัสเซนาโด้แสควร์ (Senado Square) ก็สามารถเดินไปได้ง่ายๆ ไม่ไกลเช่นกัน
Kuan Tai Temple
วัดกวนไท (ศาลเจ้าพ่อกวนอู)
เป็นอีกหนึ่งในวัดที่สามารถเดินทางมาได้ง่าย ตั้งอยู่ใกล้กับจตุรัสเซนาโด้แสควร์ และได้รับความนิยมจากนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไหว้เป็นจำนวนมาก โดยวัดกวนไทนั้นถือว่าตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองของสมัยก่อน โดยได้รับการสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1723-1795 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพเจ้ากวนอูที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีคุณธรรม ซื้อสัตว์ และกตัญญูรู้คุณ ดังนั้นในสมัยก่อนวัดแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่เหล่าพ่อค้าหรือคนทำธุรกิจจะมาใช้เป็นสถานที่ในการตกลงสัญญาทำการค้ากัน เพราะเชื่อว่าองค์กวนอูนั้นจะให้ความยุติธรรมกับทุกคน
จนถึงปัจจุบัน วัดกวนไทก็ยังคงได้รับความนิยมจากนักธุรกิจหรือคนทำมาค้าขายที่นิยมมาขอพรให้กิจการของตนไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือโดนโกง ต่างฝ่ายต่างสื่อสัตว์จริงใจต่อกัน เพื่อให้ทำมาค้าขึ้น ร่ำรวยเงินทองไหลมาเทมา หรือถ้าอยากมีลูกน้องบริวานดี ช่วยส่งเสริมให้การงานประสบความสำเร็จ ก็ต้องไม่ลืมที่จะไหว้ขอพรจากองค์ม้าเซ็กเธาว์ ม้าคู่ใจขององค์กวนอูที่ช่วยเสริมส่งบารมีของผู้เป็นเจ้านายด้วยเช่นกัน ดังคำกล่าวของชาวจีนที่ว่า "เมื่อม้ามาถึง ทุกอย่างสำเร็จ"
ภายในวัดกวนไทจะมีองค์กวนอูประทับอยู่ทั้งหมด 3 ปางด้วยกัน ได้แก่
- ปางนักรบ (องค์ประธานตรงกลาง) กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว เหมาะแก่การสักการะสำหรับผู้ที่มีอาชีพเป็นทหาร
- ปางพ่อค้า (องค์ซ้าย) มือถือทองคำ โชคลาภ มั่งมี เหมาะแก่การสักการะสำหรับผู้ที่มีอาชีพเป็นพ่อค้า นักธุรกิจ ทำกิจการส่วนตัว
- ปางบุ๋นเชียง (องค์ขวา) มือถือคำภีร์ มีความรู้ วิชาการ ไหวพริบดี เหมาะแก่การสักการะสำหรับผู้ที่มีอาชีพเป็นครูบาอาจารย์ ข้าราชการ
A-Ma Temple
วัดอาม่า (เจ้าแม่ทับทิม)
ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดวันหนึ่งและเป็นที่มาของชื่อเมืองมาเก๊าแห่งนี้เลยก็ว่าได้ เพราะสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่อาม่า หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า "เจ้าแม่ทับทิม" ที่ได้เดินทางมาถึงยังผืนแผ่นดินมาเก๊า ณ บริเวณหน้าวัดแห่งนี้ที่แต่เดิมนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งทะเล แต่ในปัจจุบันได้มีการถมที่เพิ่มขึ้นมา จึงทำให้ตัววัดนั้นร่นเข้ามาอยู่ในส่วนแผ่นดินแทน
ภายในศาลานั้นเป็นที่ตั้งขององค์เจ้าแม่ทับทิม หรือก็คือองค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล ผู้ปกปักษ์รักษาพื้นน้ำและมหสมุทร ผู้ที่ทำธุรกิจการค้าด้านการขนส่งควรมาสักการะเพื่อขอให้การเดินทางราบรื่น ปลอดภัย ไม่มีอุปสรรคใดๆ ขวางกั้น
โดยก้อนหินที่ก้อนแรกที่อาม่าได้ย่างเท้าเท้าลงมายังแผนดินมาเก๊านั้น ได้มีการแกะสลักสัญลักษณ์เป็นรูปเรือสำเภาโบราณเอาไว้ แนะนำให้ผู้ที่มาเยือนนำธนบัตรของตนมาลูบไปกับแนวของเรือสำเภา โดยจับธนบัตรด้วยมือทั้งสองข้างไล่จากฝั่งท้ายเรือมายังหัวเรือ จากนั้นพับเก็บใส่กระเป๋าสตางค์และตบที่กระเป๋า 3 ทีพร้อมเอ่ยคำว่า เฮง เฮง เฮง เพื่อความเป็นสิริมงคง ร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา
สุดท้ายอาจารย์คฑายังแนะนำว่าอย่าลืมบูชากังหันลมของทางวัดและนำมาเขียนคำอถิฐานลงไป จากนั้นนำไปแขวนเอาไว้เพื่อที่เมื่อลมพัดมา ถ้าหากกังหันหมุนตามเข็มนาฬิกาก็จะช่วนนำพาสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต หรือถ้าหมุนทวนเข็มนาฬิกาก็จะปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป เรียกว่าช่วยให้มีโชคลาภเข้ามาตลอดเวลาที่มีลมพัดไหว
Lin Fong Temple
วัดลินฟง
1 ใน 3 วัดที่เก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า ได้รับการสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ.1592 อีกทั้งยังเป็นวัดในลัทธิเต๋า และวัดที่มีโรงเรียนภายในวัดเพียงเดียวของที่นี่อีกด้วย ภายในเป็นที่ประดิษฐานของเทพทางการแพทย์นามว่าอี้เล่งไตไต และหลั่นหลงไตไต เพื่อขอพรให้สุขภาพดี ปราศจากโรคภัยใดๆ รวมทั้งมีองค์ประธานเป็นเจ้าแม่กวนอิมปางปราบมารที่ทรงเครื่องของบุรุษเพศ ช่วยขจัดปัดเป่าศัตรู คนว่าร้ายใส่ร้ายให้ออกไป
นอกจากนั้นยังมีศาลาอื่นๆ ที่เป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพอีกหลายองค์ด้วยกัน แต่หนึ่งใน Unseen ของวัดลินฟงต้องยกให้กับองค์เทพกิวฮัว ที่แตกต่างจากวัดอื่นๆ ตรงที่มี 2 องค์ตั้งอยู่คู่กัน โดยองค์หนึ่งกำลังตั้งครรภ์ อีกองค์หนึ่งกำลังอุ้มเด็ก ที่เชื่อว่าเป็นเทพอำนวยพรสำหรับกับแม่และเด็ก ผู้คนจึงนิยมมาขอพรให้ช่วยดูแลลูกหลานและคนในครอบครัวให้มีความร่มเย็นเป็นสุข รักใคร่กลมเกลียวกัน ดั่งเช่นในกรณีที่แม่ผัวกับลูกสะใภ้ไม่ถูกกัน เป็นต้น
จริงๆ แล้วชาวจีนเชื่อกันว่าองค์เจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม และเจ้าแม่กิวฮัว นั้นเป็นเจ้าแม่ 3 พี่น้องที่มาจากประเทศจีนด้วยกัน และหนึ่งในความพิเศษของวัดลินฟงอีกหนึ่งอย่างนั้นก็คือเป็นวัดที่มีเจ้าแม่ทั้ง 3 องค์ประทับอยู่ครบทั้งหมด ถือว่ามาเยือนวันนี้เพียงแห่งเดียว ก็สามารถสักการะเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม และเจ้าแม่กิวฮัว ได้ครบทั้งหมดในที่เดียวนั่นเอง
และนี่ก็คือ 6 วัดที่อยากแนะนำให้ทุกท่านได้มาเยือนกันตามรอยเส้นทางบุญในทริป Unseen มาเก๊า ตามรอยศรัทธา มหาเศรษฐี ไหว้พระเสริมดวงรับปีระกา ในครั้งนี้ ที่เดินทางมาเยือนกันได้ง่ายๆ ไม่ใกล้ไม่ไกล แค่นั่งเครื่องบินเพียง 2:30 ชั้วโมงจากประเทศไทยก็ถึงแล้ว จะเลือกมาเช้าเย็นกลับ หรือนอนค้างสักคืนสองคืนก็ยังได้ตามความสะดวกของแต่ละท่าน
สุดท้ายนี้ขอฝากคำอวยพรจากอาจารย์คฑา ชินบัญชร ให้ผู้อ่านทุกท่าน
เฮง เฮง เฮง
รวย รวย รวย
โชคดี โชคดี โชคดี
พบเจอแต่ความสุขโชคดีตลอดปี มั่งมีตลอดไป ต้อนรับปีระกาที่กำลังจะมาถึงนี้นะครับ
การเดินทาง
ผู้ถือพาสปอรตสัญชาติไทย สามารถเดินทางไปยังมาเก๊าและฮ่องกงได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นระยะเวลา 30 วันด้วยกัน โดยจากประเทศไทย มีสายการบินไทยแอร์เอเชีย เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีเที่ยวบินตรงสู่มาเก๊ามากที่สุดถึง 6 เที่ยวบินต่อวัน แบ่งเป็นเที่ยวบินกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - มาเก๊า จำนวน 4 เที่ยวบินต่อวัน ครบทุกเวลาทั้งเช้า สาย บ่าย และเย็น เรียกว่าจะเดินทางตอนไหนก็เลือกได้ง่ายตรงกับความต้องการได้ตลอดทั้งวัน รวมทั้งเที่ยวบินตรงเชียงใหม่ - มาเก๊า และอู่ตะเภา (พัทยา) - มาเก๊า อีกอย่างละ 1 เที่ยวบินต่อวัน
หรือถ้ายังไม่อยากกลับ จะเลือกนั่งเรือข้ามฟากไปไหว้พระหรือช๊อปปิ้งต่อที่ฮ่องกงก็ยังได้ เพราะมีเที่ยวบินขากลับกรุงเทพฯ ให้เลือกอีกถึง 3 เที่ยวบิน ที่สำคัญอย่าลืมจองอาหารบนเที่ยวบินล่วงหน้ากันเอาไว้ด้วย เพราะนอกจากจะประหยัดเงินกว่าแล้ว ยังมีเมนูให้เลือกหลากหลายกว่าด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมนูใหม่อย่างข้าวหน้าปลาแซลมอนย่างพริกเกลือ ที่เสริฟพร้อมซุปมิโซะ เยลลี่ และน้ำดื่ม ลองทานดูแล้วรสชาติอร่อยเด็ดเลยทีเดียว
